“วัด”สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
“นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่”หรือ “เวียง พิงค์” ก่อตั้งโดยพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายเมื่อ พ.ศ. 1839 ราชวงศ์นี้ได้ปกครองมายาวนานกว่า 200 ปี เมืองนี้จึงตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าใน พ.ศ. 2101 ต่อมาในปี พ.ศ. 2317 พระเจ้าตากสินมหาราชได้ขับไล่พม่าจนพ่ายแพ้ไป เชียงใหม่จึงถูกรวมเข้ากับสยามนับตั้งแต่นั้นมา ต่อมาในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เชียงใหม่จึงมีฐานะเป็นเมืองประเทศราช และมีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคในสมัยพนะบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เชียงใหม่เปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลพายัพ และเป็นจังหวัดในสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันเชียงใหม่นับเป็นเมืองใหญ่และสำคัญที่สุดในภาคเหนือ และในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่รวบรวมศิลปกรรม โบราณวัตถุ ตลอดจนวัฒนธรรมดั่งเดิมของล้านนาไว้โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ของเชียงใหม่เป็นป่าละเมาะและภูเขา มีที่ราบอยู่ตอนกลางตามสองฝั่งแม่น้ำปิง
1. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หรือ วัดโชติการาม
ตั้งอยู่ณ.ตำบลพระสิงห์ ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุด ซึ่งสร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมาแห่งราชวงศ์มังราย และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานนานถึง 80 ปี หน้าประตูทางเข้าวิหารมีบันไดนาคคู่เลื้อยงดงามตาและในวัดยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมือง เสาอินทขิลนี้สร้างจากไม้ซุงต้นใหญ่ฝังอยู่ใต้ดินประดิษฐานในวิหารจัตุรมุขทรงไทยและในทุกปีจะมีงานเข้าอินทขิลเพื่อเป็นการ ฉลองเสาหลักเมือง หน้าประตูทางเข้ามีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง นาคคู่นี้เป็นฝมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิม เชื่อกันว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดในภาคเหนือ
เป็นวัดที่พญาผายู ในราชวงศ์มังรายโปรดเกล้าฯให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดามีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งซึ่งจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปรอบเมืองในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อให้ประชาชนสรงน้ำนั่นคือพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย อีกทั้งวัดนี้ได้ประดิษฐานพระธาตุประจำปีนักษัตรมะโรงอีกด้วย
3. วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ
ถนนสายเกาะกลางบริเวณเวียงกุมกาม มีพระพุทธรูปบรรจุอยุ่ในซุ้มรวม 60 องค์ หลังจากที่วัดนี้ถูกปล่อยให้รกร้างก็ได้มีคหบดีชาวพม่าที่เกิดความเลื่อมใสได้บูรณะขึ้นมาใหม่ จึงมีศิลปะแบบพม่าเข้ามาแทนที่แบบดั้งเดิม
ตั้งอยู่ ณ ถนนสายวัวลายภายในพระอุโบสถมี พระเจ้าเจ็ดตื้อ มีอายุราว 500 ปี สร้างโดยพระเจ้าเมืองแก้ว เป็น ”พระพุทธอัศจรรย์” มีพลานุภาพสูงส่ง ทำให้ผู้ไปนั่งสมาธิมีความปิติอย่างรวดเร็วอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาสร้างด้วยคอนกรีตและตกแต่งปิดทับด้วยแผ่นอลูมิเนียมและแผ่นเงิน ที่สลักลวดลายหุ้มผนังอุโบสถทั้งหลังจึงนับเป็นอุโบสถเงินหลังแรกของโลก
5. วัดเจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร
ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2020 โดยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย สถาปัตยกรรมสำคัญของวัดนี้ได้แก่ เจดีย์เจ็ดยอด ลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย ซึ่งมีฐานเจดีย์ประดับปูนปั้นรูปเทวดา ด้านนอกพระเจดีย์ก็เช่นกันประดับงานปูนปั้นรูปเทวดาทั้งนี่งขัดสมาธิและยืนทรงเครื่องที่มีลวดลายต่างกันไปดูงามน่าชม นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญในพุทธประวัติ 7 แห่ง ได้แก่ โพธิบัลลังก์ อนิมิตรเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ อชปาลนิโครธเจดีย์ ราชายตนเจดีย์ และ มุจจลินทเจดีย์ ปัจจุบันสถานที่สำคัญในพุทธประวัติเจ็ดแห่งเหลืออยู่ที่วัดเจ็ดยอดเพียงสามแห่ง คือ อนิมิตเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ มุจจลินทเจดีย์ วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ โปรดให้ประชุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่เพื่อชำระพระไตรปิฎก ใช้เวลานานถึง 1 ปี จึงสำเร็จ นับเป็นการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก และเป็นครั้งแรกของไทย และถือเป็นหลักปฏิบัติของพระสงฆ์ในล้านนา
วิหารเดิมเป็นหอคำหรือท้องพระโรงหน้าของพระเจ้ามโหตรประเทศ เป็นอาคารเครื่องไม้แบบพื้นเมืองล้านนา ซุ้มประตูประดับไม้แกะสลักรูปนกยูงอันเป็นสัญลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายเหนือ
วัดนี้แต่เดิมเป็นพระราชอุทยานของกษัตริย์ล้านนาไทยสมัยแรกเริ่ม มีสถาปัตยกรรมสำคัญคือ เจดียืพระประธานทรงกลม กู่บรรจุอัฐิของเจ้าตระกูล ณ เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าเก้าตื้อ วึ่งพญาเมืองแก้ว โปรดหล่อขึ้น เป็นพระพุทธณูปสำริดขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย
วัดอุโมงค์ (อุโมงค์เถรจันทร์)สร้างขึ้นในมัยพญาเม็งรายมหาราชราว พ.ศ. 1839 เพื่อให้ฝ่ายอรัญวาสีจำพรรษาต่อมาพญากือนาทรงโปรดให้สร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พญาเถรจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสนาเจริญกรรมฐานสมาธิ อุโมงค์นี้มีลักษณะเป็นกำแพง ภายในเป็นทางเดินหลายช่องทะลุผ่านถึงกันได้ภายในอุโมงค์เคยมีภายจิตรกรรมฝาผนังส่วนใหญ่เป็นลายดอกบัว ดอกโบตั๋น และนกต่าง ๆ
เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาต่อกันหลายลุกและอยู่ติดกับริมน้ำกกเป็นวัดเก่าแก่และเป็นสถานศึกษาของพระภิกษุ สามเณรและเยาวชนเป็นศูนย์บำบัดยาเสพติด และสงเคราะห์ชาวเขาภายในวัดมีเจดีย์แก้วเฉลิมพระเกียรติการครองราชย์ปีที่ 50 ซึ่งทางวัดได้ริเริ่มโครงการสร้างด้านบนมีจุดชมวิวทิวทัศน์ซึ่งสามารถมองเห็นชุมชน ทิวป่า ทุ่งนา และลำน้ำกกที่ไหลคดเคี้ยวอยู่ด้านล่าง
ขอบคุณข้อมูล : chiangmai-travels.com