Quantcast
Channel: สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ข่าวการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวในไทย
Viewing all articles
Browse latest Browse all 2719

กราบไหว้ พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก

$
0
0

กราบไหว้ พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก

พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก

ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พระอารามหลวง ชั้นเอก

พระพุทธชินราช

คาถาบูชาพระพุทธชินราช
บทนี้เขียนไว้โบสถ์หลวงพ่อพระพุทธชินราช

“อิเมหิ นา นา สักกาเลหิ อภิปูชิเตหิ ทีกายุโกโหมิ
อะโลโคสุคิโต สิทธิกัจจัง สิทธิกรรมมังปิยัง มะมะ
ประสิทธิลาโภชะโยโหตุ สัพพัทธา พุทธะชินะราชา
อภิปะเลตุมัง นะโมพุทธายะ”

 

ประวัติพระพุทธชินราช

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยตอนปลาย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก หล่อในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) ซึ่งได้สร้างพระพุทธชินราช พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ฐานชุกชีปั๊มเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย เดิมไม่ได้ลงรักปิดทอง ได้มีการปิดทองครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ คราวเสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพระพุทธชินราช เมื่อปี พ.ศ. 2146

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระอารามหลวง ชั้นเอก เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทยและในโลก เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิง มีลักษณะพิเศษเรียกว่าทีฆงคุลี คือที่ปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่นิ้วยาวเสมอกัน ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกรแต่มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และมีลำตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลางซุ้ม มีเทพอสุราปกป้องพระองค์อยู่สองตน คือ ท้าวเวสสุวัณ และอารวกยักษ์

พระพุทธชินราช

ในตำนานการสร้างพระพุทธชินราชกล่าวว่า พระพุทธชินราชสร้างในสมัยพระศรีธรรมไตรปิฎก ธาตุของพระพุทธเจ้า คือ เกศา(ผม) ได้สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา โดยใช้ช่างจากเมืองศรีสัชนาลัย และเมืองหริภุญชัย ในการเททองปรากฏว่าหล่อได้สำเร็จเพียงสององค์ ส่วนพระพุทธชินราชทองแล่นไม่ตลอด ต้องทำพิมพ์หล่อใหม่ถึงสามครั้ง ครั้งสุดท้ายพระอินทร์ได้แปลงกายเป็นชีปะขาวมาช่วยเททองหล่อ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้นสองค่ำ เดือนหก ปีมะเส็ง จุลศักราช 717 จึงหล่อได้สำเร็จบริบูรณ์

ปัจจุบันพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาได้ถูกอันเชิญไปประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ทางวัดจึงได้หล่อองค์จำลองขึ้นแทน

ภายในพระวิหารพระพุทธชินราช

พระพุทธชินราช สง่างามล้ำค่า

พระพุทธชินราช สง่างามล้ำค่า

เมื่อกล่าวถึงพระพุทธรูปที่มีความงามเป็นเลิศ ทุกคนต้องนึกถึงพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก อย่างแน่นอน เพราะเป็นพระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่าไปด้วยศิลปกรรมเลิศล้ำด้วยคุณลักษณะ กว่าพระพุทธรูปทั้งหมดในแผ่นดิน นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีทุกสมัย ต่างตกลงใจเป็นอย่างเดียวกันว่าพระพุทธชินราชนั้นงามเป็นหนึ่ง ประดุจดั่งเพชรเม็ดงามที่ล้ำค่ามหาศาล ศิลปะที่ปรากฏผ่านสายตา เป็นที่สร้างศรัทธาเลื่อมใส จับจิตใจของผู้พบเห็น เป็นที่น่าอัศจรรย์ ยากที่จะพรรณนาความงามให้หมดสิ้นได้ นำความเอิบอิ่มใจมาให้เป็นทัศนานุตตริยะอย่างยอดเยี่ยม และเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธลักษณะที่เลอเลิศทำให้เกิดความคิดเป็นอัศจรรย์ว่า เป็นพุทธปฏิมาที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์จริงหรือ และเมื่อได้เข้าใกล้ประหนึ่งได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นที่ปลื้มใจได้ปีติของคนทั่วหล้า ผู้ที่มาแล้วอยากที่จะกลับมาอีกครั้ง เหมือนกับมีพลังดลใจไม่มีเบื่อ  ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธชินราช ยังประกาศประจักษ์เป็นพยานผ่านกาลเวลามาทุกยุคทุกสมัย เป็นที่พึ่งทางใจของคนทุกชนชั้น อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย ผู้ที่มีความทุกข์ใจกาย ก็ผ่อนคลายยามเมื่อได้เห็น กลายเป็นความสุขอย่างประหลาด เหมือนหยาดน้ำฝนที่ตกลงในที่แห้งแล้งกันดาร ย่อมเป็นที่สำราญของสรรพสัตว์นานาชนิด เหมือนได้ชุบชีวิตจากตายแล้วเกิดใหม่

ป้ายวัดใหญ่เด่นชัด มองเห็นได้ถนัดตาดีครับ

ด้านหน้าพระวิหารพระพุทธชินราช

องค์พระพุทธชินราชยังประกาศความงามเป็นหนึ่งให้โลกได้ประจักษ์ตา ผู้คนทุกชาติภาษา ต่างติดตราตรึงใจเมื่อได้ยลเหมือนต้องมนต์ให้หลงใหล ใคร่อยากจะทัศนาให้เป็นเวลานาน ไม่อยากที่จะผ่านเลยไป ความอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่บนผืนแผ่นดินนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งล้ำค่าเกิดขึ้นได้ จึงหวนใจคิดว่าถ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์ จะงามเลิศล้นสักแค่ไหน

บานประตูประดับมุกที่งดงาม

คงต้องกล่าวสรรเสริญองค์พระยาลิไทจอมกษัตริย์และช่างผู้เจนจัดในศิลปกรรม มีจิตเลิศล้ำบริสุทธิ์เป็นอเนกอนันต์ที่ได้รังสรรค์สิ่งดีงามให้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย อันเป็นศูนย์รวมใจของชนทั้งชาติ และประกาศความเป็นหนึ่งแห่งศิลปะให้โลกได้รับรู้เพื่อเชิดชูด้านวิจิตรศิลป์ของชนชาติไทย .

 

“พุทธเอยพุทธชินราช                  งามเอยงามโอภาสมหาศาล

ศักดิ์เอยศักดิ์สิทธิ์หาใดปาน             คู่เอยคู่สถานไทยแผ่นดิน

ล้ำเอยล้ำเลิศประเสริฐสุนทร์         สวยเอยสวยละมุนด้วยศาสตร์ศิลป์

เด่นเอยเด่นหล้าทั่วธานินทร์           สุขเอยสุขจินต์เมื่อยามยล ฯ”

พิษณุ เมืองพระงาม.

 

และภายในอาณาบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก หรือ วัดใหญ่ นั้น  ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ให้เที่ยวชมและกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว อีกมากมาย ซึ่งทีมงาน TLC ขอเชิญไปเยี่ยมชมกันได้เลยครับ ..

 

วิหารพระพุทธชินสีห์ ( วิหารทิศเหนือ )

วิหารพระพุทธชินสีห์

ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชินสีห์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๔ นิ้ว พระพุทธชินสีห์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในวิหารหลังเล็กด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นวิหารแบบโรง มีขนาดเล็กกว่าวิหารพระพุทธชินราช คือเป็นวิหารขนาด ๔ ห้อง มีความกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สูง ๑๕.๙๐ เมตร องค์นี้เป็นองค์จำลองสร้างขึ้นมาใหม่ครับ

พระพุทธชินสีห์ ณ วัดบวรฯ (องค์จริง)

พระพุทธชินราช สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก

พระพุทธชินราช สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก

ส่วนองค์จริงถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร กุรงเทพ ฯ ครับ

 

วิหารพระศรีศาสดา ( วิหารทิศใต้ )

ภายในวิหารพระศรีศาสดา

ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระศรีศาสดา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ๖ นิ้ว พระศรีศาสดา เมื่อสร้างเสร็จแล้วถูก อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในวิหารหลังเล็กด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นวิหารแบบโรง มีขนาดเล็กกว่าวิหารพระพุทธชินราช และมีขนาดใกล้เคียงกับวิหารพระพุทธชินสีห์ คือเป็นวิหารขนาด ๔ ห้อง มีความกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สูง ๑๕ เมตร องค์นี้เป็นองค์จำลองสร้างขึ้นมาใหม่ครับ

พระศรีศาสดา ณ วัดบวร ฯ

ส่วนองค์จริงถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร กุรงเทพ ฯ เช่นกันครับผม

 

ปัจจุบันวิหารพระศรีศาสดา กรมศิลปากรได้ใช้เป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เช่น พระพุทธรูป แม่พิมพ์พระเครื่อง และหัวโขนโบราณ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๙ คราวที่เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพระพุทธชินราช เมื่อวันที่๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๙

หลวงพ่อดำ อยู่หน้าวิหารพระศรีศาสดา

ส่วนด้านหน้าพระวิหาร ยังเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อดำ ด้วยครับ

 

วิหารพระเหลือ

อยู่บริเวณด้านหน้าของวิหารขององค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช ครับ  ขอพรได้นะครับ จะได้เหลือกิน เหลือใช้ครับ  ^_^

วิหารพระเหลือ

“พระเหลือ” หลังจากสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดาแล้ว พระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือนำมารวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดเล็ก หน้าตัก กว้าง ๑ ศอกเศษ เรียกชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระเหลือ”เศษทองยังเหลืออยู่อีกจึงได้หล่อพระสาวกยืนอยู่ ๒ องค์ ส่วนอิฐที่ก่อเตาสำหรับหลอมทองในการหล่อพระพุทธรูป นำมารวมกันบนชุกชี (ฐานชุกชี) พร้อมกับปลูกต้นมหาโพธิ์ ๓ ต้นลงบนชุกชี เรียกว่า โพธิ์สามเส้า ระหว่างต้นโพธิ์ได้สร้างวิหารน้อยขึ้นมา ๑ หลัง อัญเชิญพระเหลือกับสาวกเข้าไปประดิษฐานอยู่ เรียกว่า วิหารพระเหลือ โดยคนในท้องถิ่นเชื่อว่าหากได้นมัสการ ก็จะเป็นมงคลโดยเฉพาะนักธุรกิจ พ่อค้า และคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน เนื่องจากชื่อ “พระเหลือ” มีความหมายพ้องกับ “เหลือกิน เหลือใช้”

พระเหลือ

 

หลวงพ่อโตพระประธานในพระอุโบสถ

หลวงพ่อโตพระประธานในพระอุโบสถ

หลวงพ่อโต พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง ๘ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว ศิลปะสุโขทัยมีลักษณะพระพักตร์งดงาม มีพระอุณาโลมคล้ายพระพุทธชินราชเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในวัดครับผม

หลวงพ่อโต

เคยมีผู้เล่าว่าไว้ ได้เคยอ่านพบในสมุดข่อยโบราณที่วัดถือน้ำ จ.นครสวรรค์กล่าวว่า หลวงพ่อโต พระประธานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ พิษณุโลกสมเด็จพระนเรศวรได้สร้างขึ้นหลังจากที่พระองค์ได้ทรงรับชัยชนะสงครามยุทธหัตถีแล้ว โดยได้จำลองพระพักตร์หลวงพ่อโตให้มีลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจีน ที่พระองค์ทรงได้รับการถวายจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ซึ่ง พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระกริ่งองค์นี้มาก ทรงได้นำติดพระองค์ไปด้วยทุกครั้งที่ออกศึก จึงทรงให้ช่างปั้น พระพักตร์หลวงพ่อโตให้อูมเอิบอิ่ม พระโขนงเชิดขึ้นบนเป็นต้น ผิดจากพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยและอยุธยา ทรงสร้างขึ้นหลังจากสร้างพระ อุโบสถเสร็จแล้วหรือพร้อมบูรณะพระอุโบสถยังไม่แน่ชัด เพราะเป็นพระพุทธรูปใหญ่กว่าประตูพระอุโบสถหลายเท่า ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของพระกริ่งนเรศวร

 

พระปรางค์ประธาน

พระปรางค์ประธาน วัดใหญ่ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น ฐานย่อเหลี่ยมไม้ยี่สิบ องค์พระปรางค์ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด เป็นพระปรางค์ประธาน และเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของวัด การก่อสร้างพระปรางค์ของพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ได้ทำตามคตินิยมของหัวเมืองราชธานี ของอาณาจักรสุโขทัยในสมัยนั้น คือประสงค์ให้พระปรางค์เป็นหลักเป็นประธานของวัด และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ รูปแบบของพระปรางค์เมื่อเริ่มสร้างสันนิษฐานว่า เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม โดยสร้างครอบพระสถูปเจดีย์ที่สร้างในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถม

พระปรางค์ประธาน

เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นไป ครองราชย์ที่เมืองพิษณุโลก ได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ ได้ให้เป็นรูปแบบพระปรางค์แบบขอมตามพระราชนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง ๘ วา ๒ ศอก (๑๗ เมตร) ยาว ๒๑ เมตร มีฐานย่อมุมไม้สิบสองรับกับเรือนธาตุขององค์พระปรางค์ พระปรางค์สูง ๑๘ วา (๓๖ เมตร) ตรงกลางองค์พระปรางค์ทั้ง ๔ ด้าน มีซุ้มจระนำ ๔ ทิศ ซุ้มจระนำทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ส่วนซุ้มจระนำทางด้านทิศตะวันออกมีคูหาสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้าง ๒.๕๐ เมตร เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวประมาณ ๑.๓๓ เมตร ฐานเจดีย์สี่เหลี่ยมนี้ซ้อนกัน ๓ ชั้น สูง ๑.๕๐ เมตร องค์เจดีย์เป็นทรงรูปกลม ศิลปะแบบลังกา สูง ๑.๕๐ เมตร จากฐานถึงยอดเจดีย์ ๓ เมตร เจดีย์องค์นี้ประดับกระจกสีทั้งองค์

ภายในเจดีย์องค์นี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุครับผม

ภายในเจดีย์องค์นี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่หน้าคูหามีประตูขนาดเล็กอยู่หน้าซุ้มจระนำ ๑ คู่ มีบันไดขึ้นไปที่ซุ้มจระนำ ๒๕ ขั้น ยอดพระปรางค์ประดับด้วยนภศูล มีกลีบขนุนประดับองค์พระปรางค์โดยรอบ เดิมกลีบขนุนคงจะทำด้วยปูนปั้นเกลี้ยงๆ ตามแบบที่นิยมกันในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ต่อมาในสมัยที่พระปรากรมมุนี (เปลี่ยน) เป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งซื้อกระเบื้องเคลือบสีทองจากประเทศอิตาลีมาประดับกลีบขนุนพระปรางค์แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๖ ทำให้ยอดพระปรางค์มีสีเหลืองอร่ามงดงามมาก ด้านใต้กลีบขนุนเหนือซุ้มจระนำมีรูปพระยาครุฑจับนาคหล่อด้วยปูนปั้น ประดับอยู่ตรงมุมย่อเหลี่ยม ด้านละ ๓ ตน รวม ๔ ด้าน มี ๑๒ ตน พระปรางค์องค์นี้ได้มีการบรูณะซ่อมแซมให้มีสภาพที่สมบูรณ์ดีมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดได้รับการบูรณะโยกรมศิลปากรแล้วเสร็จ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒

 

วิหารพระอัฏฐารสและพระอัฏฐารส

เป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุศิลปะสมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นหลักฐานโบราณสถานสำคัญ เพียงชิ้นเดียวที่ยังคงเหลือรูป แบบสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความเก่าแก่ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารที่ชัดเจนที่สุด วิหารพระอัฏฐารสและพระอัฏฐารส ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านหลังองค์พระปรางค์ วิหารมีลักษณะที่คงเหลือแต่ซากวิหาร ลักษณะเป็นฐานอิฐ เรียกว่า “เนินวิหารเก้าห้อง” ตั้งอยู่บนเนินดินและหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บนซากวิหารยังคงเหลือเสาศิลาแลงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เมตร เหลืออยู่ ๙ ต้น มีเสาร่วมในประธาน ๒ แถว

วิหารพระอัฏฐารสและพระอัฏฐารส

ตรงบริเวณฐานชุกชีมีองค์พระอัฏฐารสประทับยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก พระหัตถ์ขวา ยกขึ้นเสมอพระอุระ พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงมาข้างพระกาย เบื้องพระปฤษฎางศ์ ก่อผนังปูนหนา มีเสาไม้คำยันไว้ ๒ ต้น สันนิษฐานว่าของเดิมทำเป็นบันไดสำหรับขึ้นไปสูงจนถึงพระศอ เป็นพระพุทธรูปประทับยืนสูง ๑๘ ศอก สร้างตามคติความเชื่อแบบลังกา เดิมทีวิหารพระอัฏฐารสและพระอัฏฐารสปรักหักพักเสียหายมาก ตัววิหารได้มีการขุดแต่งทางโบราณคดี ส่วนพระอัฏฐารสได้หักและชำรุดมาก โดยที่พระเกศ พระบาท และพระกรซ้ายขวาชำรุดหักพักหมด ทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้ให้ช่างทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ และปี พ.ศ. ๒๕๕๑

 

พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน หรือวิหารหลวงพ่อสามพี่น้อง

เป็นวิหารขนาดกลางตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวิหารพระพุทธชินราชนอกเขตระเบียงคต อยู่ด้านหน้าของวิหารพระศรีศาสดา เป็นวิหารทรงโรงสมัยอยุธยา ขนาดเล็กมี ๔ ห้อง มีขนาดกว้าง ๑ วา ๑ ศอก ยาว ๓ วา ๓ ศอก สูง ๔ วา หลังคามีชั้นเดียว มีปีกนกมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดพระยานาค ด้านหน้ามีประตูเข้าออก ๒ ประตู ด้านข้างมีหน้าต่างด้านละ ๓ คู่ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ๓ องค์

พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน

ตรงกลางวิหารทำเป็นประดิษฐานหีบปิดทอง(สมมติ)บรรจุพระบรมศพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำด้วยศิลาตั้งอยู่บนจิตรากาธานประดับด้วยลวดลายลงรักปิดทองร่องกระจกสวยงาม ที่ปลายหีบมีพระบาททั้งสองยื่นออกมา และบริเวณด้านหน้า หรือด้านท้าย หีบพระบรมศพ มีพระมหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพถวายบังคมเป็นครั้งสุดท้าย รอบพระจิตกาธาน มีรูปพระพุทธสาวก ๕ รูปนั่งชันเข่าประนมมือมีท่าทางเศร้าโศกอาลัยอาวรณ์ในการเสด็จดับขันธปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ได้รับการบูรณะใหม่แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งนับว่าเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญของวัดพระศรีรัตนมหาวรวิหาร โดยผู้สร้างถือคติว่าเป็นการจำลองสังเวชนียสถานของพระพุทธเจ้า คาดว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

 

รอยพระพุทธบาทจำลอง

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระอัฏฐารส มณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง เป็นมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีขนาดกว้างยาว ๙.๘๐ เมตร สูง ๕ เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูง .๗๐ เมตร มีประตูทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ ด้านละ ๑ คู่ มีหน้าต่างทางด้านทิศตะวันออกและทางทิศตะวันตก ด้านละ ๑ คู่ ภายในมณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง มีขนาดกว้าง ๑๓ นิ้ว ยาว ๔ ศอก ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิรีราชย์ครบ ๕๐ ปี

รอยพระพุทธบาทจำลอง

 

รูปหล่อ พระนเรศวรมหาราช ,พระเอกาทศรฐ ,พระสุพรรณกัลยา ,ภายในพระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ครับผม

หลวงพ่อขาว

หลวงพ่อขาว

 

หลวงพ่อคง

หลวงพ่อคง

 

และภายในบริเวณวัดใหญ่ ยังมีของฝากให้กับนักท่องเที่ยว ได้ซื้อของไปชิมไปฝากกันได้อย่างทั่วถึง เพราะว่ามีร้านค้าให้เลือกซื้อได้ตามใจชอบ กว้างขวาง เช่น สินค้าขึ้นชื่อก็ต้อง เรื่องกล้วยๆ มีทั้งกล้วยตากจากอำเภอบางกระทุ่ม เช่น กล้วยทอด กล้วยอบเนย กล้วยเคลือบช็อกโกแลต เป็นต้น รวมทั้ง เมี่ยงคำที่อร่อยมากครับ  ,น้ำตาลสดหอมชื่นใจ  ,หมูยอและแหนมสุพัตรา ,น้ำปลาจากอำเถอบางระกำ ,ไม้กวาดบ้านนาจาน จากอำเภอชาติตระการ ,หมี่ซั่วที่รสชาติเหนียวนุ่ม และสินค้าจากจังหวัดใกล้เคียงเช่น จังหวัดสุโขทัย  ,รวมทั้งมีวัตถุมงคลให้บูชาเช่าซื้อกันด้วยครับ เรียกได้ว่าอิ่มบุญอิ่มท้องกันเลยที่เดียว ทั้งยังมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าล็อตเตอรี่ ให้เลือกเสี่ยงโชคกัน มีหลายร้านมากครับ ..

ที่ขายของฝากของที่ระลึกครับผม

เมื่อไหว้พระขอพรกันแล้ว ก็มาเสี่ยงโชคกันครับ

 

ถ้าหากทุกท่านได้มีโอกาสผ่านไปเยี่ยมเียียนจังหวัดพิษณุโลก (เมืองสองแคว/เมืองอกแตก) ทีมงาน TLC ขอแนะนำว่าทุกท่านไม่ควรพลาดไปกราบไหว้ขอพร องค์พระพุทธชินราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก หรือวัดใหญ่ กันนะครับ และทุกท่านจะได้อิ่มบุญอิ่มใจไปได้อย่างเต็มที่เลยครัับ ..

พาเที่ยว ไหว้พระ 9 วัด ที่อ่างทองพาเที่ยว ไหว้พระ 9 วัด ที่อ่างทอง

ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล

วิกีพีเดีย

livekalasin.com/mangpong

board.palungjit.com/สร้อยฟ้ามาลา

www.watyai.com

ทีมงาน TLC

สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2558,สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต,สถานที่ท่องเที่ยวปี58,ที่เที่ยวปี58,สถานที่ท่องเที่ยวปี2558,ท่องเที่ยว

The post กราบไหว้ พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่า คู่บ้านคู่เมืองพระพิษณุโลก appeared first on สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ข่าวการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวในไทย.


Viewing all articles
Browse latest Browse all 2719

Trending Articles


โปร ROV ตีแรง อมตะ คอมโบ้ เวอร์ชั่นล่าสุด


หลุด พลอย เฌอมาลย์ เห็นหัวนมในฉากเลิฟซีน 18+


amp*payment bangkok ในบัตรเครดิต UOB คือะไร มีใครทราบไหมครับ


คิดว่ามีอนิเมะเรื่องใหนไม่เคารพ มังงะ/นิยาย บ้างครับ?


อ.จุฑารัตน์ ดูดวงวงศ์สว่าง21 ไม่เปิดหรอ?


Notability อัปเดตใหม่เพิ่มฟีเจอร์เปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ภาษาไทยได้แล้ว


ประกาศรายชื่อ Matching แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ปีการศึกษา 2559 รอบที่ 1


ใส่สีตารางสลับแถว เว้นแถว Excel 2016 | 2013


โหลดโปรแกรม Cheat Engine สำหรับเก็บเลเวลในเกมส์


ใครรู้จักบริษัท the singular group บ้างครับ...


มันคือเพลงอะไรใครทราบบ้าง


มีเบอร์แปลกๆ ส่งการยืนยัน Google SIM มา


คลิปซูฉีอาบน้ำ เห็นหมด รีบดูก่อนโดนลบ


ใหม่ All New ISUZU D-MAX Super Daylight 2014-2015 ราคา อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์...


ด่วน! สพป.สกลนคร เขต 1 รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว และครูอัตราจ้าง 10 อัตรา


จากนางแบบเซ็กซี่สู่เจ้าหญิง!! เจ้าหญิงโซเฟียแห่งสวีเดน กับเส้นทางชีวิตสุดแซ่บ


สรุปทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Pivot Table


เล่นแร่แปรสูตร : การแปลงวันที่ Text ให้เป็นวันที่ Date


การเขียนแม่ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ 3D ด้วย Artcam (ตอนที่ 1)


กลัวความลับหลุด เครียดมาก